6 ทริค ปั้นธุรกิจฟิตเนสให้ประสบความสำเร็จตั้งแต่ก่อนเริ่ม

Gym Business

ในปัจจุบัน ปัญหาที่เจ้าของฟิตเนสพบบ่อยมากที่สุด คงหนีไม่พ้น ปัญหาสุดคลาสสิค อย่างเช่น 

  • คนเข้ามาใช้บริการน้อย
  • คนเข้ามาใช้บริการที่ฟิตเนสของเราเพียงครั้งเดียว แล้วก็ไปเล่นที่อื่น 
  • ลูกค้าส่วนใหญ่เลือกใช้บริการเป็นรายครั้งมากกว่าการสมัครสมาชิกรายเดือนหรือรายปี 

คำถามคือ แล้วทำไมปัญหาพวกนี้ถึงได้เกิดขึ้นล่ะ ? คำตอบง่ายๆก็คือ เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้วิธีการพัฒนาฟิตเนสให้ถูกใจลูกค้า เพราะส่วนใหญ่จะเลือกสร้าง Gym จากมุมมองของตัวเองเป็นหลัก โดยไม่ได้คำนึงถึงมุมมองของลูกค้า 

ครั้งนี้ทาง Maxnum Fitness เลยนำ 6 ทริคที่จะเป็นหลักในการพัฒนาฟิตเนสไปในรูปแบบที่เข้าใจลูกค้ามากที่สุด 

1. ความหลากหลายของคลาสเรียนและสิ่งอำนวยความสะดวก

ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะเบื่อกับอะไรเดิมๆ และชอบที่จะลองสิ่งใหม่ๆ เช่น Yoga หรือ Zumba รูปแบบการออกกำลังกายประเภทการฝึกความสมดุลของร่างกาย และการคาร์ดิโอที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เพราะมันเป็นการเปลี่ยนแปลงการออกกำลังกายรูปแบบเดิมให้เป็นแบบใหม่ ที่ทำให้การออกกำลังกายสนุกสนานมากขึ้น

ดังนั้น Gym ก็ควรอัพเดทเทรนด์ในการออกกำลังกายของแต่ละช่วงเวลา เพื่อนำมาปรับปรุงคลาสและเครื่องออกกำลังกายให้ทันสมัยและหลากหลายยิ่งขึ้น
(คุณสามารถอัพเดทเทรนด์การออกกำลังกายประจำปี 2019 ได้ที่บทความนี้เลย !) 

นอกจากนี้ สิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยในการใช้บริการฟิตเนส ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้องน้ำที่สะอาด และมาพร้อมกับไดร์เป่าผม รวมถึงบริการล็อคเกอร์สำหรับเก็บของใช้ส่วนตัว หรือบางที่อาจจะมี เสื้อผ้า ผ้าขนหนู อุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ ที่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าหลังจากที่ออกกำลังกายเสร็จ ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดขายที่ดีของการทำ Gym เลยทีเดียวเชียว

2. เครื่องออกกำลังกายที่เหมาะสม 

เป็นที่รู้กันดีว่าเครื่องออกกำลังกายคือสิ่งหนึ่งที่สร้างความน่าสนใจให้กับแต่ละ Gym ยิ่งถ้าอุปกรณ์หรือเครื่องออกกำลังกายของคุณดูใหม่ตลอดเวลา มันก็ยิ่งดึงดูดให้ลูกค้าอยากใช้มันมากยิ่งขึ้น 

ในทางกลับกัน ถ้าเครื่องออกกำลังกายมีสภาพเก่าและเกิดชำรุดบ่อย แน่นอนว่าลูกค้าก็คงจะหนี ไม่กล้าเล่นกันหมด 

ทีนี้เวลาเราเลือกซื้ออุปกรณ์และเครื่องออกกำลังกาย สิ่งที่ควรคำนึงถึงเพื่อให้ได้อุปกรณ์และเครื่องออกกำลังกายที่ตอบโจทย์ที่สุด หลักๆจะมีก็คือ 5 สิ่งนี้

  1. ขนาดและพื้นที่ของ Gym 
  2. งบประมาณที่กำหนด 
  3. ความรู้พื้นฐานของอุปกรณ์และเครื่องออกกำลังกายแต่ละประเภท 
  4. เงื่อนไขการรับประกันและซ่อมบำรุง 
  5. ซัพพลายเออร์ที่ใช่ 

 โดยคุณสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดที่เจาะลึกในแต่ละข้อได้ที่บทความ : สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนเลือกซื้อเครื่องออกกำลังกาย (สำหรับ Gym) 

3. ทำเลทองสำหรับ Gym 

ทำเลที่ตั้งเป็นสิ่งแรกๆ ที่หลายคนให้ความสำคัญ ซึ่งคำถามที่หลายคนมักสงสัยคือ “ทำเลหรือสถานที่ตั้งไหนที่เวิร์คสำหรับการเปิด Gym” โดยจริงๆ แล้ว มันควรสัมพันธ์กับกลยุทธ์การตลาดของธุรกิจ แปลว่าก่อนที่คุณจะตัดสินใจเลือกที่ตั้ง สิ่งที่ควรทำก่อนคือการวางแผนและสำรวจตลาด 

ซึ่งสามารถอิงได้จากปัจจัยเหล่านี้ : 

  • ราคาของสถานที่ (ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะการเช่าหรือซื้อขาด)
  • ลักษณะของผู้คนในบริเวณนั้น ซึ่งอาจจะหมายถึงคนที่เป็นลูกค้า และประชากรทั่วไปที่ได้รับอิทธิพลจากธุรกิจ 
  • สิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่นั้นๆ (เช่น ที่จอดรถ หรือสิ่งที่เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง) 
  • คู่แข่ง 

โดยเป้าหมายสูงสุดของการเลือกทำเลที่ดี คือ การที่เราสามารถพัฒนา Gym และพื้นที่เหล่านั้นให้ดีขึ้นควบคู่กันไปได้ 

4. Customer Service 

เช่นเดียวกับธุรกิจอื่นๆ ลูกค้าคือสิ่งสำคัญที่สุดในการหล่อเลี้ยงธุรกิจให้เจริญเติบโต ซึ่งวิธีการบริการและดูแลลูกค้าจะส่งผลถึงความพึงพอใจของลูกค้า รวมถึงภาพลักษณ์ของธุรกิจ ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำคือการให้บริการที่ดีแตกต่างจาก Gym อื่นๆ ที่จะทำให้ธุรกิจของคุณเติบโต 

ยกตัวอย่างเช่น 

  • Website ของ Gym ที่เป็นมิตรและเข้าใจง่าย 
  • Staff ที่พร้อมตอบคำถาม และให้ความช่วยเหลือกับลูกค้า 
  • เทรนเนอร์ที่คอยให้กำลังใจ กระตุ้นเพื่อให้ลูกค้าได้ออกกำลังกายจไปถึงเป้าหมาย

ซึ่งบริการที่ดีจะสร้างความรู้สึกที่ดีระหว่างธุรกิจและลูกค้า และเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ตั้งแต่ลูกค้าเริ่มเดินเข้ามาใน Gym 

5. การโปรโมทและโฆษณา

สิ่งสำคัญที่จะทำให้ Gym ของคุณเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และทำให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ถึงโปรโมชั่นต่างๆ ซึ่งคุณควรมีแผนการตลาดที่พร้อม และเลือกช่องทางที่ใช่ในการโปรโมท เช่น 

  • โซเชียลมีเดีย
  • โทรทัศน์ 
  • ใบปลิว 
  • ดิจิตอลแบนเนอร์ 
  • อื่นๆ 

และเพื่อให้คุ้มค่ากับงบประมาณการโปรโมท  คุณควรทำการวางกลยุทธ์และวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายมาให้ดีที่สุด 

6. โฟกัสกับการสร้างแบรนด์ 

เป็นเรื่องที่ยากมากที่ธุรกิจใดๆ จะประสบความสำเร็จได้หากขาด ภาพลักษณ์ของธุรกิจที่ดี เพราะอย่างที่รู้กันว่าสิ่งหนึ่งที่จะทำให้คุณโดดเด่นได้ท่ามกลางคู่แข่งทางธุรกิจที่ให้บริการคล้ายๆกัน คือ การสร้างแบรนด์ที่แตกต่างและทำให้คนจดจำ (ในด้านดี) 

โดยในการสร้างแบรนด์ ภารกิจของคุณคือการทำให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวของธุรกิจที่เราต้องการสื่อสารให้คนอื่นรู้ 

นอกจากนี้คือการทำให้เข้ารับรู้ถึงข้อดีและคุณค่าของธุรกิจ Gym ให้ได้ เช่น การทำให้พวกเขารู้ว่า จุดประสงค์ธุรกิจ ไม่ใช่แค่การหารายได้จากการออกกำลังกาย แต่คือความต้องการให้ทุกคนสุขภาพดีในทุกๆ ด้าน โดย Gym ได้เลือกอุปกรณ์และเครื่องออกกำลังกายที่ดีที่สุด พร้อมกับบริการอาหารคลีน และการออกกำลังกายเสริมสุขภาพจิต ซึ่งตรงกับจุดประสงค์หลักของธุรกิจ  

สุดท้ายแล้วกลุ่มเป้าหมายรู้สึกไว้วางใจ และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับแบรนด์ ทำให้แบรนด์ของเราแข็งเกร่งยิ่งขึ้น จนสามารถช่วยลดงบการทำโฆษณาไปได้เลย   

สรุป

เป็นเรื่องที่ยากมากที่ธุรกิจใดๆ จะประสบความสำเร็จได้หากขาด ภาพลักษณ์ของธุรกิจที่ดี เพราะอย่างที่รู้กันว่าสิ่งหนึ่งที่จะทำให้คุณโดดเด่นได้ท่ามกลางคู่แข่งทางธุรกิจที่ให้บริการคล้ายๆกัน คือ การสร้างแบรนด์ที่แตกต่างและทำให้คนจดจำ (ในด้านดี) 

โดยในการสร้างแบรนด์ ภารกิจของคุณคือการทำให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวของธุรกิจที่เราต้องการสื่อสารให้คนอื่นรู้ 

นอกจากนี้คือการทำให้เข้ารับรู้ถึงข้อดีและคุณค่าของธุรกิจ Gym ให้ได้ เช่น การทำให้พวกเขารู้ว่า จุดประสงค์ธุรกิจ ไม่ใช่แค่การหารายได้จากการออกกำลังกาย แต่คือความต้องการให้ทุกคนสุขภาพดีในทุกๆ ด้าน โดย Gym ได้เลือกอุปกรณ์และเครื่องออกกำลังกายที่ดีที่สุด พร้อมกับบริการอาหารคลีน และการออกกำลังกายเสริมสุขภาพจิต ซึ่งตรงกับจุดประสงค์หลักของธุรกิจ  

สุดท้ายแล้วกลุ่มเป้าหมายรู้สึกไว้วางใจ และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับแบรนด์ ทำให้แบรนด์ของเราแข็งเกร่งยิ่งขึ้น จนสามารถช่วยลดงบการทำโฆษณาไปได้เลย